นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 ขยายตัวที่ 3.5% โดยเป็นผลมาจาก 3 เครื่องยนต์เศรษฐกิจ ได้แก่ การท่องเที่ยว คาดว่าต่างชาติจะเดินทางเข้ามาไทยกว่า 8 ล้านคน มากกว่าเดิม 6.7 ล้านคน มีรายได้ 4.3 แสนล้านบาท เนื่องจากขณะนี้มีการผ่อนปรนมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อการท่องเที่ยวกลับมาจะสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศด้วย โดยจะขยายตัว 4.8% เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีการจับจ่ายใช้สอย และส่งต่อมาถึงรายได้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว จึงทำให้การบริโภคปรับตัวดีขึ้น รวมถึงส่งผลให้รายได้เกษตรกรจะขยายตัวได้ดีตามราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ขณะที่ภาคการส่งออกจะขยายตัวที่ 7.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.5% ตามราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิด ได้แก่ ความยืดเยื้อสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลต่อราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการขึ้นดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทั้งสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต และเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศหลักและประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลเชื่อมโยงไปยังภาคการผลิตและการค้าทั่วโลก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ครม.เห็นชอบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 3 ประกอบด้วย การปรับแผนการก่อหนี้ใหม่ เพิ่มขึ้น 14,177 ล้านบาท เป็น 1.429 ล้านล้านบาท โดยวงเงินที่เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้าน เป็นการนำไปเพิ่มสภาพคล่องให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รองรับการดูแลค่าเอฟที อีกส่วนให้การไฟฟ้านครหลวง 2,300 ล้านบาท ขยายบริการในกรุงเทพฯ คำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่
นอกจากนี้ ยังมีการปรับแผนการบริหารหนี้เดิมเพิ่มขึ้น 1,500 ล้านบาท เป็น 1.502 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่เพิ่มจากการเคหะแห่งชาติ ไปรีไฟแนนซ์หนี้เดิมเพื่อขยายเวลาชำระหนี้ และอีกส่วนมีการปรับแผนการชำระหนี้ เพิ่มขึ้น 20,835 ล้านบาท เป็น 384,104 ล้านบาท สำหรับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เนื่องจากกองทุนฯ มีการนำรายได้ส่งคืนคลังมากขึ้น
“การปรับแผนก่อหนี้รอบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรัฐวิสาหกิจนำไปใช้พัฒนาและขยายการให้บริการต่างๆ ทั้งไฟฟ้า ประปาโดยคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย.65 สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีจะลดลงเหลือ 61.3% จากเดิมที่คาดไว้ 62.76% เนื่องจากจีดีพีปีนี้ มีอัตราการเติบโตดี โดยขยายตัวถึง 3.5% และยังอยู่ในกรอบหนี้สาธารณะที่กำหนดไม่เกิน 70%”