จากกรณีที่ ฟรานซ์ เบคเคนเบาเออร์ ตำนานลูกหนังชาวเยอรมัน เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 78 ปี หลังครอบครัวออกแถลงการณ์ยืนยันข่าวเศร้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ไกเซอร์ฟรานซ์” สิ้นลมอย่างสงบตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสมาชิกของครอบครัวที่มาดูใจเป็นครั้งสุดท้าย ถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของวงการลูกหนังโลก
เบคเคนเบาเออร์ ลืมตาดูโลกที่นครมิวนิก เยอรมนีตะวันตก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 1945 เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 9 ขวบ กับทีมเยาวชนของสโมสร เอสเซ มิวนิก 06 ก่อนย้ายไปอยู่กับทีมเยาวชนของ บาเยิร์น มิวนิก ตอนอายุ 14 ปี ก่อนจะได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของ “เสือใต้” ในเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้นกับ ซังต์ เพาลี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 1964 และช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ และก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของสโมสร พาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย โดยเป็นการได้แชมป์ 3 ปีติดต่อกัน และแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัย
หลังจากนั้น เบคเคนเบาเออร์ ย้ายไปเล่นในสหรัฐอเมริกากับ นิวยอร์ก คอสมอส โดยร่วมทีมกับยอดนักเตะของโลกอย่าง เปเล่ โดยเล่นอยู่ 4 ฤดูกาล พาทีมคว้าแชมป์ 3 สมัย ก่อนย้ายกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้งกับ ฮัมบวร์ก โดยเล่นอยู่กับ “สิงห์เหนือ” 2 ซีซั่น พาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จ ในซีซั่น 1981-82 ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 1983
ส่วนการรับใช้ทีมชาติเยอรมนีนั้น เบคเคนเบาเออร์ เริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1965 ผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 3 สมัย ในปี 1966 (รองแชมป์) 1970 (อันดับ 3) และ 1974 (คว้าแชมป์ในฐานะกัปตันทีม) นอกจากนี้ยังพาทีมคว้าแชมป์ยูโร 1972 และรองแชมป์ยูโร 1976 รวมแล้วลงเล่นให้ทีมชาติไป 582 นัด โดยในยุคที่ยังค้าแข้งนั้น เบคเคนเบาเออร์ คือนักเตะคนแรก ๆ ที่เล่นในตำแหน่งลิเบอโร และมีท่วงท่าสง่างาม จนได้รับฉายาว่า “แดร์ ไกเซอร์” หรือ “จักรพรรดิ” นอกจากนี้ เจ้าตัวยังคว้าบัลลงดอร์มาครองได้ 2 สมัยในปี 1972 และ 1976
ขณะที่เส้นทางการเป็นกุนซือนั้น เบคเคนเบาเออร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือทีมชาติเยอรมนีตะวันตก แทนที่ จุปป์ แดร์วัลล์ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 1984 หรือหลังจากแขวนสตั๊ดได้แค่ปีกว่า ๆ และพาทีมคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 1986 ที่เม็กซิโก ก่อนจะประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยการพา “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์โลกในเวิลด์ คัพ 1990 ที่อิตาลี ทำให้เจ้าตัวเป็นคนที่ 2 ในโลกต่อจาก มาริโอ ซากัลโล ของบราซิล ที่ได้แชมป์โลกทั้งในฐานะนักเตะและกุนซือคำพูดจาก เล่นเกมสล็อตออนไลน์
หลังได้แชมป์โลก 1990 เบคเคนเบาเออร์ อำลาเก้าอี้กุนซือ “อินทรีเหล็ก” ก่อนรับงานคุมทีมโอลิมปิก มาร์กเซย อยู่ช่วงสั้น ๆ ไม่ถึง 1 ปี นอกจากนี้ยังคุม “เสือใต้” ช่วงสั้น ๆ อีก 2 ช่วง และพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ในปี 1994 และแชมป์ ยูฟ่า คัพ ในปี 1996 โดยก่อนหน้านั้น “ไกเซอร์ฟรานซ์” รับตำแหน่งประธานสโมสร บาเยิร์น มาตั้งแต่ปี 1994 และดำรงตำแหน่งต่อเนื่องจนกระทั่งลงจากเก้าอี้ในปี 2009 เปิดทางให้ อูลี เฮอเนส ทำหน้าที่แทนคำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท
นอกจากนี้ ตำนานแข้งเมืองเบียร์ ยังเคยนั่งเก้าอี้รองประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี (เดเอฟเบ) รวมถึงเคยเป็นประธานทีมเสนอตัว และประธานฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพด้วย ก่อนที่ในเวลาต่อมา เจ้าตัวจะป่วย และต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ 2 ครั้ง ในปี 2016 และ 2017 รวมถึงต้องผ่าตัดใส่สะโพกเทียม ในปี 2018 ก่อนจะเสียชีวิตลงอย่างสงบในที่สุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ม.ค. 2024 ด้วยวัย 78 ปี