นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งที่2,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ วันที่ 28 มี.ค. 67 ส่งผลให้จากต้นปีราคาทองขึ้นมาแล้วกว่า 8% ทำให้นักลงทุนเริ่มเกิดความไม่มั่นใจว่าราคาทองคำจะเป็นภาวะฟองสบู่หรือไม่ หากวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐานจะเห็นว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากปัจจัยพื้นฐาน นับจากการระบาดของโควิด -19 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จากอิสราเอล-ฮามาส ทะเลแดง และรัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ ทางการจีนที่ได้ตั้งเป้าเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 7.2% สู่ระดับ 1.67 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นด้วยอัตราสูงสุดในรอบ 5 ปี สถานการณ์เช่นนี้ ส่งเสริมให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เมื่อทองคำย่อตัวลง จึงเป็นแรงซื้อทองคำที่เข้ามาคอยช่วยให้ราคายกระดับต่ำสุดขึ้น และแน่นอนว่าจะได้ปัจจัยหนุนหลักมาจากการเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงของเฟดอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนี้ทองคำยังมีความเสี่ยง เนื่องด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างไกลแล้ว จึงอาจเกิดแรงขายสลับเข้ามาได้ โดยในส่วนของแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายจากเฟดนั้น หากพิจารณาข้อมูลในรายงานประมาณภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ในเดือน มี.ค. อย่างถี่ถ้วน พบว่า สำหรับปี 2567 มีการปรับขึ้นของคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อสหรัฐ แต่ทำการปรับลดอัตราการว่างงานลง นอกจากนั้น แม้ว่าคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) จะอยู่ที่การลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งเท่าเดิมในปีนี้ แต่มีการปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2568 และ 2569 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มระดับอัตราดอกเบี้ยที่อาจคงไว้ที่ระดับสูง ทำให้นักลงทุนยังคงไม่วางใจต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบนี้ที่ชี้ว่า เฟดยังไม่อาจสามารถระบุถึงช่วงเวลาในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้คำพูดจาก เว็บพนันออน
ดังนั้นแล้วในระยะสั้นทองคำอาจมีความเสี่ยงอยู่บ้าง จากทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐรวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับแรงขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ในระยะถัดไปแม้ราคาทองคำอาจมีช่วงปรับฐานลงมาบ้าง แต่จะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และหากกลางปีนี้เฟดทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำไปอีก 2-3 ปี วายแอลจีจึงมั่นใจว่าภาพใหญ่ของทิศทางทองคำในปีอีก 2-3 ปี จะยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น
อย่างไรก็ดีวายแอลจีแนะนำว่าหากนักลงทุนที่มีทองคำอยู่ในมือและมีกำไรในช่วงนี้ควรแบ่งขายทำกำไร เนื่องจากปกติหากทองคำปรับขึ้นรอบใหญ่จะต้องมีการขายทำกำไรออกมาทุกครั้ง ดังนั้นในระยะสั้นราคาทองคำอาจจะปรับตัวลดลงมาก่อน แต่ระยะยาวยังคงรักษาทิศทางขาขึ้นไว้ได้ โดยให้แนวรับที่ 2,144-2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านที่ 2,266-2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศมองแนวรับที่ 36,600-35,500 บาทต่อบาททองคำ แนวต้านที่ 38,750-39,300 บาทต่อบาททองคำคำพูดจาก เว็บพนันออน
Motor Show 2024 เปิดตัว TOYOTA Corolla Cross 2024 ราคา 1.25 ล้าน
ฟุตซอลไทย ถอนแค้น ออสเตรเลีย 9-2 คว้าแชมป์ NSDF 2024
อาหารลดอาการปวดกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับคนเป็นออฟฟิศซินโดรม